Zerobase (ZBT) คืออะไร?

การประมวลผลที่ปลอดภัยและเป็นส่วนตัวคือเรื่องสำคัญ หากทำได้ไม่ดีอาจเกิดปัญหาตามมาได้

Zerobase เป็น Platform ที่ผสานเทคโนโลยี Zero-Knowledge Proofs (ZKPs) เข้ากับ Trusted Execution Environments (TEEs) เพื่อสร้างระบบที่สามารถประมวลผลข้อมูล นอกเชน (off-chain) ได้อย่าง เป็นส่วนตัวแต่ยังตรวจสอบได้ (private & verifiable)

เหมาะสำหรับงานซับซ้อน เช่น การรันโมเดลทางการเงิน การยืนยันตัวตน หรือการประมวลผลของระบบแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ (DEX) โดย Zerobase จะสร้างหลักฐานการประมวลผล (proof) ที่สามารถนำกลับมาตรวจสอบบนเชนได้

Module หลักของ Zerobase ได้แก่ zkStaking, ProofYield, zkLogin และ เครือข่าย Proving Network แบบกระจายศูนย์ ซึ่งรองรับทั้งวงจร Zero-Knowledge แบบสำเร็จรูปและแบบปรับแต่งได้เอง ทำให้นักพัฒนาสามารถสร้าง Smart Contract ที่ตรวจสอบได้และ DApp แบบกระจายศูนย์ที่เชื่อถือได้ ได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

สถาปัตยกรรมเครือข่ายของ Zerobase

เครือข่ายของ Zerobase ถูกออกแบบบนโมเดล Multi-Hub และ Node เพื่อรองรับ การขยายตัว (scalability), ประสิทธิภาพ (efficiency) และ ความทนทานต่อความผิดพลาด (fault tolerance)

Node Partitioning และ Hub Management

Zerobase ใช้ consistent hashing จัดสรร Node ไปยัง Hub ภายในโครงสร้างแบบวงแหวนเสมือน (virtual ring) ซึ่งช่วยลดการย้ายข้อมูลเมื่อระบบขยาย และกระจายภาระงานอย่างสมดุลทั่วทั้งเครือข่าย Hubs สามารถเข้าออกได้แบบ Dynamic โดยระบบจะจัดสรร Node ใหม่โดยอัตโนมัติเพื่อคงความพร้อมใช้งานสูง (high availability)

Virtual Nodes

เพื่อป้องกันปัญหาภาระงานไม่สมดุล (load imbalance) แต่ละ Hub จะมีตัวแทนเป็นหลาย virtual nodes เพื่อกระจาย Node ให้ทั่วถึงมากขึ้น

ประเภทของ Node

Proving Nodes:
ทำหน้าที่ประมวลผล Zero-Knowledge Proofs ภายใน Trusted Execution Environments (TEEs) พร้อมมีหลักประกัน (collateral) เป็น Stablecoin เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของเครือข่าย

Hub Nodes:
จัดการการส่งต่อ proof และการแชร์ Bandwidge โดยไม่ต้องใช้หลักประกัน และจะได้รับรางวัลตามสัดส่วนของการมีส่วนร่วมในเครือข่าย

ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย

ข้อมูลส่วนตัว (private inputs) ถูกประมวลผลภายใน TEE เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ดำเนินการเข้าถึงได้ ขณะเดียวกันระบบยังคงประสิทธิภาพสูงและหน่วงเวลาต่ำ (low latency)

Use Cases ของ Zerobase

Zerobase พัฒนา Module ที่เน้นความเป็นส่วนตัว (privacy-focused) เพื่อรองรับการใช้งานจริงในหลากหลายรูปแบบ ดังนี้

zkLogin:
ระบบยืนยันตัวตนบน Blockchain ที่ให้ผู้ใช้สามารถ log-in ผ่านผู้ให้บริการตัวตน (เช่น Google หรือ DID Provider อื่น ๆ) ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว

zkDarkPool:
โมดูลสำหรับ การเทรดแบบปกปิดข้อมูล (confidential trading) บน DEX ซึ่งจะซ่อนรายละเอียดธุรกรรมไว้จนกว่าการเทรดจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันการ front-running และการปั่นราคาตลาด

Zerobase Staking:
ใช้ Zero-Knowledge Proofs เพื่อให้ผู้ใช้สามารถ stake ได้โดยไม่เปิดเผยกลยุทธ์หรือข้อมูลส่วนตัว ขณะเดียวกันยังรักษาความโปร่งใสด้านความเสี่ยง (risk transparency)

AI Inference Verification & Content Authenticity:
Platform หรือ Start up สามารถใช้ Zerobase เพื่อ “ยืนยันความถูกต้อง” ของผลลัพธ์จาก AI หรือเนื้อหาต้นฉบับ ผ่าน cryptographic proofs ที่ตรวจสอบได้จริง ช่วยลดปัญหาข้อมูลเท็จและเนื้อหาปลอมในโลก Digital

ZBT ทำอะไรได้บ้าง

ZBT เป็นโทเค็นหลักของระบบนิเวศ Zerobase ที่ใช้ขับเคลื่อนการทำงานและการกำกับดูแลของเครือข่าย ผู้ใช้สามารถใช้ ZBT เพื่อเข้าถึงบริการต่าง ๆ เช่น zkStaking, Proof Routing, และสิทธิ์ในการใช้ Module บางประเภท

Node ภายในเครือข่ายจะได้รับ ZBT เป็นรางวัลจากการสร้าง Proof หรือให้บริการ Bandwidth ผู้ใช้ทั่วไปยังสามารถ stake stablecoin ผ่าน zkStaking เพื่อรับผลตอบแทนที่ถูกยืนยันบนเชนได้

นอกจากนี้ DAO ของ Zerobase จะดูแลเรื่อง การซื้อคืนและเผาเหรียญ (buyback & burn) เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจและปรับสมดุลอุปทานตามการใช้งานจริงของเครือข่ายอีกด้วย

การกระจายตัวโทเค็น

Node Stake : 43.75
Team & Advisor : 20
Ecological Fund : 15
Investors : 11.25
Airdrop & Early Mining : 8
Liquidity : 2

อุปทานสูงสุด 1 พันล้าน ZBT, อุปทานหมุนเวียน 120 ล้าน ZBT


สรุป

Zerobase (ZBT) มุ่งเชื่อมช่องว่างระหว่าง “ความเป็นส่วนตัว” และ “ความโปร่งใส” บนระบบบล็อกเชน ผ่านการผสานระหว่าง cryptographic proofs และ trusted hardware computation ทำให้สามารถเปิดทางให้ นักพัฒนา ธุรกิจ และผู้ใช้งาน สามารถสร้างและใช้แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (DApps) ที่เน้นความเป็นส่วนตัวได้ โดยยังคงความสามารถในการตรวจสอบผ่าน Blockchain