Enso (ENSO) คืออะไร?

Enso เป็นเครือข่าย Layer 1 แบบกระจายศูนย์ ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้การทำงานของนักพัฒนากับ Smart Contract บนหลาย Brockchain, Rollup และ Appchain เป็นเรื่องง่ายขึ้น โดย Enso ทำหน้าที่เป็น “ชั้นการประสานงาน” (Coordination Layer) ที่คอยเชื่อมต่อ Smart Contract จากหลายเครือข่ายเข้าด้วยกัน เพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้าง App ข้ามเชนได้ โดยไม่ต้องยุ่งยากกับรายละเอียดทางเทคนิคที่ซับซ้อน
Enso ทำงานอย่างไร
สถานะเครือข่ายแบบแชร์ร่วมกัน (Shared Network State)
Enso มี “สถานะเครือข่ายแบบแชร์ร่วมกัน” ซึ่งทำหน้าที่เหมือนฐานข้อมูลกลาง (Global Database) ที่เก็บข้อมูลของ Smart Contract จาก Blockchain และ Rollup หลายเครือข่ายไว้ในที่เดียว ทำให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงข้อมูลจากแหล่งเดียวกันได้อย่างสม่ำเสมอ โดยไม่ต้องเชื่อมต่อกับแต่ละ Blockchain แยกกัน
โดย Smart Contract แต่ละตัวจะถูกบันทึกเป็น Entity ที่มีรายละเอียดครบถ้วนสำหรับการสร้าง Code ระดับต่ำ (Executable Bytecode) ซึ่งเป็น Code ที่ Blockchain ใช้ประมวลผลคำสั่งต่าง ๆ ทั้งยังมีการเชื่อมโยงกับ Chain ID ของเครือข่ายนั้น ๆ เพื่อให้ระบบรู้ว่า Smart Contract นั้นถูก deploy อยู่ที่ไหน
ตัวอย่างเช่น Protocol ให้กู้ของ Aave บน Ethereum จะถูกเก็บเป็น Entity ประเภท “Lend” เมื่อมีนักพัฒนาต้องการโต้ตอบกับ Protocol ให้กู้บนหลายเชน Enso จะสามารถรวบรวมองค์ประกอบที่จำเป็นจากสถานะเครือข่ายที่แชร์ร่วมกัน เพื่อสร้าง bytecode ที่พร้อมใช้งานได้โดยอัตโนมัติ วิธีนี้ช่วยลดความซับซ้อนของการพัฒนาแบบ multi-chain โดยแปลงการโต้ตอบระหว่าง Smart Contract ที่ซับซ้อนให้กลายเป็น Component ที่เป็นมาตรฐานและนำกลับมาใช้ซ้ำได้
ขั้นตอนการทำงานของ Enso (Workflow)
1. Intent Creation
ผู้ใช้หรือ Customer ส่ง Intent ระบุผลลัพธ์ที่ต้องการ (เช่น Swap โทเค็น หรือทำการให้กู้ยืม) โดยไม่ต้องอธิบายขั้นตอน
2. Action Contribution
Action Providers นักพัฒนาที่สร้างหรือเผยแพร่ Module Smart Contract จะทำหน้าที่เผยแพร่ Actions ที่เป็น Framework Smart Contract แบบสำเร็จรูปซึ่งจะอธิบายวิธีดำเนินการต่าง ๆ สำหรับขั้นตอนในการทำแต่ละผลลัพธ์
3. Pathfinding
Graphers ผู้เข้าร่วมที่มีหน้าที่ค้นหาผ่านข้อมูลใน shared state จะวิเคราะห์ shared state เพื่อรวม Actions ที่เกี่ยวข้องและสร้าง bytecode ที่เหมาะสมที่สุด
4. Validation
Validators node ในเครือข่ายที่ทำหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของ Code ที่ถูกสร้างขึ้น โดยจำลองการทำงานของ bytecode ในสถานะจำลองของแต่ละเชน เพื่อตรวจสอบว่าทำงานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย
5. Solution Selection
เครือข่ายเลือก Code ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด (เช่น ผลลัพธ์ดีที่สุด ต้นทุนต่ำที่สุด) และคัดทิ้งวิธีที่ด้อยกว่า
6. Execution
ผลลัพธ์สุดท้ายถูกส่งกลับให้ผู้ใช้ดำเนินการจริง ค่าธรรมเนียมการประมวลผลที่ฝังอยู่ใน bytecode จะถูกแจกจ่ายผ่านระบบประมูลให้กับ Graphers, Validators และ Action Providers โดยจ่ายเป็นโทเค็น ENSO
Use Cases ของ Enso
Enso สามารถผสานเข้ากับแอป DeFi ที่ต้องการบริหารสภาพคล่อง เคลื่อนย้ายสินทรัพย์ และระบบอัตโนมัติ เช่น
DEX / Aggregator:
ลดขั้นตอนการจัดหาสภาพคล่องด้วย simple zaps ย้ายตำแหน่งและปรับสภาพคล่องได้ง่ายขึ้น
Wallets:
รองรับการ Swap โทเค็น โอนข้ามเชน และเข้าถึงโอกาสสร้างผลตอบแทนใน DeFi ได้โดยตรง
Stablecoins:
Mint จากจุดเดียวแล้ว Bridge ข้ามเชนได้ปลอดภัย เปิดตัว Stablecoin แบบให้ผลตอบแทนได้หลายเครือข่ายโดยไม่ต้อง deploy ซ้ำ
Vault Deposits:
รองรับทุกโทเค็นในการฝากและย้ายสินทรัพย์ระหว่าง Vault ได้ง่าย รักษาเงินทุนในระบบ
Market Makers:
ทำ Market Making, Arbitrage และปรับสมดุลพูลสภาพคล่องอัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินทุน
โทเค็น ENSO ทำอะไรได้บ้าง
ENSO คือโทเค็นหลักของ Enso Protocol มีจำนวนสูงสุด 127,339,703 เหรียญ ค่อยๆถูกปล่อยออกมา และมีอัตราเงินเฟ้อที่ลดลงเรื่อย ๆ จนหมดภายใน 10 ปี การใช้งานหลักๆ ของ ENSO ได้แก่
ผู้ถือสามารถ stake เพื่อใช้สิทธิ์ Vote ในการอัปเกรด Protocol แต่จะไม่ได้รับรางวัลจากการ Vote ในทันที ต้องมีคะแนนเสียงถึงเกณฑ์จึงจะได้รางวัล, สามารถ ใช้ stake เพื่อช่วยตรวจสอบและรักษาความปลอดภัยของระบบ โดยใช้กลไก Proof of Stake (PoS) และเครื่องมือจำลองในการยืนยันข้อมูล นอกจากนี้ผู้ถือสามารถมอบหมายเหรียญที่ stake ให้ Validator เพื่อรับส่วนแบ่งรายได้ โดยไม่ต้องรันระบบตรวจสอบเอง
การกระจายตัวโทเค็น
Investors : 31.84%
Team : 25%
Foundation : 21.5%
DAO : 15.16%
Coinlist : 5%
Advisors : 1.5%
อุปทานสูงสุด 127.33 ล้าน ENSO, อุปทานหมุนเวียน 20.59 ล้าน ENSO
สรุป
Enso ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้การพัฒนาและเชื่อมต่อ App ข้าม Blockchain เป็นเรื่องง่ายขึ้น โดยใช้แนวคิด Intent-based requests ที่ให้ผู้ใช้เพียง “ระบุผลลัพธ์ที่ต้องการ” ส่วนระบบจะจัดการขั้นตอนให้ทั้งหมด
Protocol นี้ผสานการทำงานระหว่าง Action Providers, Graphers และ Validators เพื่อสร้างและตรวจสอบ bytecode บนเชน โดยอัตโนมัติ ช่วยลดขั้นตอนการเชื่อมต่อแบบ Mannual และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกันระหว่าง Smart Contracts บนเครือข่ายต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น