Newton Protocol (NEWT) คืออะไร?

Newton Protocol เป็นโปรโตคอลแบบกระจายศูนย์ (decentralized protocol) ที่สร้าง "เลเยอร์การประมวลผลสาธารณะ" สำหรับอินเทอร์เน็ต โดยมีการจัดตั้งระบบทะเบียนบริการแบบ on-chain ที่เป็นมาตรฐานในการ เผยแพร่ (Publish), ค้นหา (Discover) และ ประกอบแต่ละบริการ (Compose)
จุดเด่นคือ ใครก็สามารถเข้าร่วมได้ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลทั่วไป องค์กร หรือผู้พัฒนา ทุกคนสามารถ ลงทะเบียน, ค้นหา, และใช้งานบริการการประมวลผลไม่ว่าจะเป็น Cloud Computing, AI, หรือการประมวลผลข้อมูลเฉพาะทาง ได้แบบ โปร่งใส ไม่มีข้อจำกัด ไม่ต้องพึ่งพาบริษัทเดียวหรือศูนย์กลางใด ๆ
The problem with centralized clouds
บริการคลาวด์ในปัจจุบันส่วนใหญ่ยังคงมีลักษณะ รวมศูนย์ (Centralized) และถูกควบคุมโดยผู้ให้บริการเพียงไม่กี่ราย แม้ว่าบริการเหล่านี้จะมีข้อดีเรื่องความยืดหยุ่นและการขยายตัวได้ง่าย แต่ก็มีปัญหาสำคัญหลายประการ เช่น
ความน่าเชื่อถือ : ผู้ใช้งานจำเป็นต้องไว้วางใจในความถูกต้อง ความปลอดภัย และความเสถียรของผู้ให้บริการ
ข้อจำกัด : ผู้ให้บริการสามารถจำกัดการเข้าถึง บล็อกการใช้งาน หรือยกเลิกบริการได้ตามดุลยพินิจของตนเอง
การผูกขาดบริการ : การย้ายข้อมูลหรือบริการไปยังผู้ให้บริการรายอื่นมักมีความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายสูง
ความกระจัดกระจาย : แม้แต่โซลูชันแบบกระจายศูนย์ใหม่ ๆ ก็ยังยากที่จะทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
Newton Protocol เป็นโปรโตคอลซึ่งประมวลผลแบบกระจายศูนย์ ได้ถูกสร้างมาเพื่อเพื่อมาแก้ปัญหาเหล่านี้นั่นเอง
How Does Newton Protocol work
ทะเบียนบริการบนเชน
ทะเบียนของ Newton Protocol ทำหน้าที่เป็นแคตตาล็อกสาธารณะที่ตรวจสอบและป้องกันการปลอมแปลงของบริการประมวลผลที่มีอยู่ รายการแต่ละรายการอาจประกอบด้วยข้อมูล เช่น Service metadata ของบริการ (ชื่อ, คำอธิบาย, อินเทอร์เฟซที่รองรับ), รายละเอียดของผู้ให้บริการ, ข้อมูลราคา,เงื่อนไขการใช้งาน, สเปคของ API และ ตัวชี้วัดประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือ
ใครๆ ก็สามารถตรวจสอบรายการนี้เพื่อค้นหาบริการที่ตรงกับความต้องการได้
อินเทอร์เฟซและ API ที่ได้มาตรฐาน
บริการประมวลผลใน Newton Protocol ปฏิบัติตามมาตรฐานเปิดที่สนับสนุนให้ทุกคนใช้ประเภทอินเทอร์เฟซเดียวกัน ดังนั้น แม้ว่าคุณจะสร้างระบบให้ทำงานร่วมกับบริการเฉพาะเจาะจง แต่ก็ยังสามารถเชื่อมต่อกับบริการอื่น ๆ ได้ในอนาคต เช่น บริการประมวลผลสำหรับ AI สามารถเชื่อมต่อและทำงานร่วมกับบริการประมวลผลสำหรับ DeFi หรือเครื่องมือที่หลากหลาย
การค้นหาและประกอบใช้งานบริการ
คุณสามารถค้นหาบริการและใช้งานได้ทันที หรือจะเชื่อมโยงบริการหลาย ๆ ตัวเข้าด้วยกันเพื่อสร้างกระบวนการที่ซับซ้อนขึ้น Newton ให้ความสำคัญกับความสามารถในการประกอบใช้งาน (composability) หมายความว่าบริการแต่ละตัวสามารถนำมารวมกันในเวิร์กโฟลว์ที่ใหญ่ขึ้นได้ เช่น การทำงานอัตโนมัติที่ครอบคลุมผู้ให้บริการหลายรายในสถานที่ต่าง ๆ
การยืนยันบนเชนและแรงจูงใจ
Newton ใช้หลักฐานเชิงคริปโตกราฟฟิกและกลไกบนเชนในการยืนยันการดำเนินงานของบริการและรักษาความสมบูรณ์ของระบบ หากทำถูกต้องจะได้รับรางวัล แต่ถ้าทำผิดจะถูกลงโทษ ซึ่งช่วยส่งเสริมพฤติกรรมที่ซื่อสัตย์จากผู้ให้บริการ และสร้างความเชื่อถือได้โดยไม่ต้องพึ่งพาหน่วยงานกลาง
Key Features
1.การอัตโนมัติที่สามารถตรวจสอบได้ด้วย TEEs และ ZKPs
Newton Protocol ใช้ Trusted Execution Environments (TEEs) สำหรับการคำนวณนอกบล็อกเชน (off-chain) ที่ปลอดภัย และ Zero-Knowledge Proofs (ZKPs) สำหรับการตรวจสอบบนบล็อกเชน (on-chain)
TEEs ช่วยให้การคำนวณเกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ได้รับการรับรอง เช่น Intel SGX ซึ่งป้องกันการแทรกแซงหรือการปลอมแปลง
ZKPs ช่วยให้สามารถยืนยันความถูกต้องของการดำเนินการโดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวหรืออัลกอริทึมลับ
ฟีเจอร์นี้แก้ปัญหาความไม่น่าเชื่อถือของระบบอัตโนมัติแบบเดิม เช่น บอทบน Telegram ที่ต้องให้ผู้ใช้ส่ง private keys ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกแฮกหรือโจมตี
2.zkPermissions กฎการทำงานอัตโนมัติที่กำหนดเองได้
ผู้ใช้สามารถกำหนดเงื่อนไขการทำงานของเอเจนต์อัตโนมัติได้อย่างละเอียดผ่าน zkPermissions ซึ่งเป็นวงจร zero-knowledge ที่เข้ารหัสกฎและข้อจำกัดต่าง ๆ เช่นจำกัดปริมาณการซื้อขายในแต่ละวัน กำหนดเวลาให้เอเจนต์ทำงานเฉพาะในช่วงเวลาที่กำหนด ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานของเอเจนต์ได้อย่างสมบูรณ์ โดยไม่ต้องกังวลว่าเอเจนต์จะทำงานนอกเหนือจากที่กำหนด
3.ตลาดสำหรับการทำงานอัตโนมัติ
Newton Protocol ทำหน้าที่เป็นตลาดกระจายอำนาจสำหรับการอัตโนมัติ โดยมีบทบาทหลัก 4 อย่าง
นักพัฒนา : สร้างเอเจนต์อัตโนมัติ (automation agents) ที่สามารถตรวจสอบได้ โดยใช้ SDKs และ zkML frameworks
ผู้ดำเนินการ : รับงานและดำเนินการตามคำสั่งของเอเจนต์ โดยต้องพิสูจน์ความถูกต้องด้วย ZKPs และอาจใช้ TEEs สำหรับการคำนวณ
ผู้ใช้งาน : ส่งคำขอให้เอเจนต์ทำงานอัตโนมัติ เช่น การซื้อขายหรือการจัดการพอร์ตโฟลิโอ
ผู้ตรวจสอบ : รักษาความปลอดภัยและความถูกต้องของระบบ โดยใช้ฉันทามติแบบ delegated proof-of-stake (dPoS)
ระบบนี้สร้างความสมดุลระหว่างความต้องการของผู้ใช้และความสามารถของผู้พัฒนา โดยทุกอย่างดำเนินการอย่างโปร่งใสและกระจายอำนาจ
4.รองรับหลายบล็อกเชนและหลายโปรโตคอล
Newton Protocol สามารถทำงานข้ามบล็อกเชนและโปรโตคอลต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น โดยใช้ keystore rollup เพื่อจัดการ session keys ข้ามบล็อกเชน ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้สามารถกำหนดให้เอเจนต์ทำงานบน Ethereum และ Solana พร้อมกัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยหรือความถูกต้องของข้อมูล
ฟีเจอร์นี้ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการสินทรัพย์ข้ามระบบนิเวศได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องทำงานด้วยตนเอง
Utility
โทเค็น NEWT คือโทเค็นยูทิลิตี้ (utility token) พื้นฐานของระบบนิเวศ Newton Protocol โดยมีบทบาทหลักในการใช้งานดังนี้:
ใช้เป็นค่าธรรมเนียมในการเข้าถึงบริการประมวลผล เช่น ค่าก๊าซ ค่าลงทะเบียนบริการ และการให้รางวัลแก่ผู้ให้บริการ
ใช้ในระบบการสเตก (staking) เพื่อช่วยรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย
ใช้ในระบบการกำกับดูแล (governance) เพื่อให้ผู้ถือโทเค็นมีสิทธิในการมีส่วนร่วมตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางของโปรโตคอล
Token Distribution
Core Contributors : 18.5%
Early Backers : 16.5%
Ecosystem Growth Fund : 15.5%
Ecosystem Development Fund : 12.5%
Initial Airdrop & Community Rewards : 10%
Foundation Treasury : 9.50%
Network Rewards : 8.50%
Magic Labs : 5.00%
Liquidity 4.00 :%
อุปทานสูงสุด 1 พันล้าน NEWT ปัจจุบันปลดมาแล้ว 215 ล้าน NEWT
Conclution
Newton Protocol (NWT) กำลังพยายามเปลี่ยนวิธีที่ผู้คนเข้าถึงบริการคลาวด์ โดยทำให้ระบบเปิดกว้างมากขึ้น และลดการพึ่งพาบริษัทขนาดใหญ่ ด้วยการสร้างระบบลงทะเบียนบริการประมวลผลแบบสาธารณะ และมุ่งเน้นการเชื่อมต่อระหว่างบริการต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย Newton มอบทางเลือกใหม่ให้แก่ทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้งาน ในการสร้างและใช้แอปพลิเคชันบนเว็บได้อย่างยืดหยุ่น โปร่งใส และไร้ตัวกลาง.