Sahara AI (SAHARA) คืออะไร?

2025-07-17

Sahara AI คือแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้การพัฒนาหรือใช้งาน AI เป็นเรื่องง่าย ยุติธรรม และเปิดกว้างสำหรับทุกคน
แทนที่จะต้องพึ่งพาบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ Sahara เปิดโอกาสให้ทั้งนักพัฒนาอิสระ ทีมงานขนาดเล็ก ไปจนถึงองค์กรระดับโลก สามารถสร้าง ใช้งาน และสร้างรายได้จากเครื่องมือ AI ได้ในแบบที่โปร่งใสและไม่ต้องขออนุญาต

ไม่ว่าคุณจะกำลังพัฒนาโมเดล AI แบ่งปันข้อมูลที่มีคุณค่า หรือแค่ต้องการสำรวจสิ่งที่มีอยู่บนแพลตฟอร์ม Sahara ก็มีเครื่องมือและอิสระให้คุณมีส่วนร่วมได้อย่างเต็มที่
ทุกอย่างถูกบันทึกบนบล็อกเชน ซึ่งหมายความว่าผลงานของคุณจะได้รับการปกป้อง และรางวัลตอบแทนจะถูกจัดการอย่างอัตโนมัติผ่านสมาร์ตคอนแทรกต์

Hoe Does Sahara AI Work

Sahara AI ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 5 ส่วน ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง จัดการ และแบ่งปันเครื่องมือและทรัพยากรด้าน AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. Sahara Blockchain

Sahara Blockchain คือรากฐานของระบบ ซึ่งใช้บันทึกธุรกรรมต่าง ๆ การเป็นเจ้าของโมเดล และการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานในลักษณะที่โปร่งใสและไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้
แม้ว่าชุดข้อมูลขนาดใหญ่และโมเดลจะถูกจัดเก็บไว้นอกเครือข่ายบล็อกเชนเพื่อให้การทำงานรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ แต่ข้อมูลสำคัญ เช่น ประวัติการเป็นเจ้าของและการทำธุรกรรม จะถูกบันทึกไว้บนเชน

2. AI Infrastructure

การฝึกโมเดล AI ต้องใช้พลังประมวลผลสูงและการประสานงานจำนวนมาก Sahara จึงมีระบบที่เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถแบ่งปันทรัพยากรคอมพิวเตอร์ หรือร่วมมือกันพัฒนาโมเดลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพัฒนาเดี่ยวหรือทีมงานขนาดใหญ่ ก็สามารถฝึกและใช้งานโมเดลได้โดยไม่ต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้วยตัวเอง

3. Sahara AI Marketplace

นึกภาพเหมือน “ร้านแอป” สำหรับ AI ที่นี่ผู้ใช้งานสามารถซื้อ ขาย หรือแบ่งปันโมเดล AI ชุดข้อมูล และเอเจนต์ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก
ระบบใช้สมาร์ตคอนแทรกต์ในการจัดการลิขสิทธิ์และการชำระเงิน ทำให้ทุกธุรกรรมโปร่งใสและเป็นอัตโนมัติ หากคุณสร้างสิ่งที่มีประโยชน์ Marketplace แห่งนี้คือช่องทางในการสร้างรายได้จากมัน

4. Toolkits

ไม่ว่าคุณจะเขียนโค้ดเป็นหรือไม่ Sahara ก็มีเครื่องมือให้คุณสร้างสรรค์ได้ นักพัฒนาสามารถใช้ Sahara SDK และ API เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ AI ที่ทรงพลัง ส่วนผู้ใช้งานทั่วไปก็สามารถใช้เครื่องมือแบบลาก-วาง (drag-and-drop) และเทมเพลตสำเร็จรูปเพื่อเปิดใช้งานเครื่องมือ AI ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ดเลย

5. Secure Storage

Sahara มีระบบจัดเก็บข้อมูลแบบเข้ารหัส ซึ่งทำหน้าที่เป็น “ตู้นิรภัย” สำหรับโมเดลและข้อมูลของคุณ
ระบบรักษาความปลอดภัยและการควบคุมการเข้าถึงช่วยให้แน่ใจได้ว่าเฉพาะคุณ หรือผู้ที่คุณอนุญาตเท่านั้น ที่สามารถเข้าถึงสิ่งที่คุณสร้างหรืออัปโหลดไว้

Infrastructure

Sahara AI ถูกออกแบบบน 4 ชั้นการทำงานที่เชื่อมโยงกันอย่างเป็นระบบ ซึ่งทำหน้าที่อยู่เบื้องหลังเพื่อขับเคลื่อนแพลตฟอร์มให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

1. Application Layer

เป็นจุดที่ผู้ใช้งานโต้ตอบกับระบบผ่านแดชบอร์ด แอปพลิเคชัน หรือเครื่องมือแบบไม่ต้องเขียนโค้ด ประกอบด้วย

  • Sahara ID บ่งบอกตัวตนและชื่อเสียงของคุณบนแพลตฟอร์ม

  • Sahara Vaults พื้นที่จัดเก็บข้อมูลและโมเดลอย่างปลอดภัย

  • Sahara Agent เอเจนต์ AI ที่คุณสามารถสร้างและนำไปใช้งาน

  • Toolkits เครื่องมือสำหรับการพัฒนาทั้งแบบเขียนโค้ดและไม่ต้องเขียนโค้ด

  • Marketplace ศูนย์กลางซื้อ-ขายหรือแบ่งปันสินทรัพย์ AI

2. Transaction Layer

ชั้นนี้ทำหน้าที่ติดตามว่าใครเป็นเจ้าของอะไร และเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีการซื้อ การให้สิทธิ์ใช้งาน หรือการใช้งานสินทรัพย์ AI โดยใช้

  • Sahara Blockchain ที่ทำงานร่วมกับอัลกอริธึมฉันทามติ Tendermint เพื่อให้เกิดฉันทามติที่ทนทานต่อความผิดพลาดแบบ Byzantine แม้จะมีบางโหนดผิดพลาดก็สามารถรันต่อได้อย่างถูกต้อง

  • Smart contract สำหรับจัดการสิทธิ์การใช้งาน การจ่ายเงิน และการให้รางวัล

  • Precompiles และ Protocols ที่ช่วยให้การทำงานด้าน AI มีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุน

3. Data Layer

AI ต้องใช้ข้อมูลจำนวนมาก ชั้นนี้จึงรับหน้าที่จัดเก็บและบริหารข้อมูล

  • บันทึกเมตาดาทา (Metadata) และข้อมูลสำคัญไว้บนบล็อกเชน

  • ไฟล์ขนาดใหญ่จัดเก็บไว้นอกบล็อกเชนเพื่อประสิทธิภาพ

  • มีระบบความปลอดภัยเพื่อปกป้องข้อมูลที่ละเอียดอ่อน

4. Execution Layer

เป็นชั้นที่การประมวลผลจริงเกิดขึ้น เช่น การฝึกโมเดล AI หรือการทำ Inference โดยใช้

  • โครงสร้างพื้นฐานที่มีสมรรถนะสูง

  • ระบบจัดการงานที่มีการประสานงานอย่างมีประสิทธิภาพ

  • การจัดการแบบนามธรรมสำหรับชุดข้อมูล โมเดล และการคำนวณ

Decentralized Governance

Sahara AI ถูกบริหารจัดการโดยชุมชนผ่าน Sahara DAO (องค์กรอิสระแบบกระจายศูนย์) ซึ่งหมายความว่าการตัดสินใจที่สำคัญ เช่น การอัปเกรดโปรโตคอล หรือการจัดสรรเงินทุน จะถูกกำหนดโดยผู้ใช้งานและผู้ที่มีส่วนร่วมกับแพลตฟอร์มโดยตรง
นอกจากนี้ยังมี Sahara Foundation ซึ่งเป็นองค์กรสนับสนุนที่ช่วยจัดการในช่วงเปลี่ยนผ่านไปสู่ความเป็นกระจายศูนย์อย่างเต็มรูปแบบ และส่งเสริมการเติบโตของระบบนิเวศ การวิจัย และการพัฒนาในระยะยาว

Utility

SAHARA Token คือโทเคนดั้งเดิมของระบบนิเวศ Sahara AI ซึ่งมีบทบาทเป็นเครื่องมือสำคัญในหลายๆ ด้าน เช่น

  • เข้าถึงหรือขอสิทธิ์ใช้งานข้อมูลฝึก AI
    ใช้โทเคนเพื่อขอรับชุดข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการฝึกโมเดล AI

  • ใช้งานโมเดล AI ที่มีอยู่แล้ว
    แทนที่จะต้องสร้างโมเดลใหม่ตั้งแต่ต้น คุณสามารถใช้โทเคนเพื่อเข้าถึงโมเดลที่พัฒนาไว้แล้วโดยผู้อื่น

  • ใช้พลังประมวลผลตามต้องการ
    การฝึกหรือรันโมเดล AI ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก คุณสามารถใช้โทเคนเช่าโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการฝึก การดีพลอย หรือการประมวลผลผลลัพธ์ได้

  • จ่ายตามการใช้งาน (Pay-per-usage)
    ระบบคิดค่าบริการตามการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นการเรียกใช้งานโมเดลหรือการประมวลผล (inference)

Token distribution

  • Ecosystem Development : 33.9%

  • Community Incentives : 20%

  • Early Backers : 19.8%

  • Team & Contributors : 15%

  • Knowledge Airdrop : 5.00%

  • Binance HODLer Airdrop : 2.75%

  • Buidlpad Community Distribution : 1.42%

  • Liquidity and Market Stability : 1.00%

  • Binance Alpha Airdrop : 0.75%

  • OKX Airdrop : 0.40%

อุปทานสูงสุด 10 พันล้าน SAHARA ปัจจุบันปลดมาแล้ว 2 พันล้าน SAHARA

Conclution

Sahara AI คือแพลตฟอร์ม AI แบบกระจายศูนย์ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าถึง สร้าง และใช้งานปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างเป็นธรรม โปร่งใส และปลอดภัย โดยมีโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับทั้งนักพัฒนาและผู้ใช้งานทั่วไป พร้อมระบบการกำกับดูแลโดยชุมชนผ่าน DAO และใช้โทเคน SAHARA เป็นกลไกหลักในการเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ ภายในระบบนิเวศ Sahara AI คืออนาคตของ AI ที่ เปิดกว้าง ยั่งยืน และเป็นของทุกคน.