Boundless (ZKC) คืออะไร?

2025-10-16

Boundless (ZKC) คืออะไร? 

โดยทั่วไป Programmable Blockchain ส่วนใหญ่จะต้องให้โหนดทุกตัวรันธุรกรรมใหม่ทั้งหมด เพื่อยืนยันผลลัพธ์ แม้จะปลอดภัย แต่ก็ทำให้ซ้ำซ้อนและช้า

Boundless คืออะไร?

Boundless ใช้วิธีที่แตกต่าง โดยนำ verifiable computing และ ตลาดผู้พิสูจน์แบบกระจายศูนย์ (decentralized prover marketplace) เข้ามาใช้ นักพัฒนาสามารถส่งงานคำนวณเข้าไป และผู้พิสูจน์ (provers) จะแข่งขันกันเพื่อสร้าง ZKP ของงานนั้น แล้วจึงเลือกผู้ที่ได้รับงานพิสูจน์เพียงคนเดียว ที่ทำการคำนวณและสร้างหลักฐาน (proof) ขึ้นมา ซึ่งโหนดอื่นสามารถตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว

Boundless ทำงานอย่างไร



Proof of Verifiable Work (PoVW)

ระบบ PoVW คือหัวใจสำคัญของ Boundless ต่างจาก PoW ที่ใช้พลังงานแก้สมการทางคณิตศาสตร์ PoVW ใช้กำลังคอมพิวเตอร์ไปกับการสร้าง ZKP ที่สามารถนำไปใช้งานได้จริง 

ผู้พิสูจน์จะต้องเข้าร่วมวางเงินหลักประกัน ด้วยการ Stake โทเค็น ZKC เมื่อ Prover ทำสำเร็จจะได้รับรางวัล แต่ถ้าล้มเหลว เงินค้ำประกันบางส่วนจะถูกตัดทิ้ง



Boundless Proving Stack

Boundless พัฒนาบน RISC Zero zkVM ที่สามารถยืนยันได้ว่า Code ที่เขียนด้วย Rust รันอย่างถูกต้อง โดยไม่ต้องให้โหนดทุกตัวทำซ้ำ

โครงสร้างหลักประกอบด้วย:

  • Bento:
    ระบบสำหรับจัดการคำร้อง ประมวลผล และสร้าง proof รองรับตั้งแต่ GPU เครื่องเดียวไปจนถึง Cluster ขนาดใหญ่

  • Broker:
    เชื่อมต่อ Prover กับตลาด Proof ประเมินคำขอ proof, จัดการการประมูล และส่งผลลัพธ์ขึ้นบล็อกเชน

กระบวนการขอ proof มี 5 ขั้นตอน:

1.เขียนโปรแกรม

นักพัฒนาจะเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Rust สำหรับ zkVM การรันโปรแกรมจะได้ผลลัพธ์ พร้อมกับ cryptographic seal ที่พิสูจน์ได้ว่าการประมวลผลถูกต้องจริง

2. ส่งคำขอ

นักพัฒนา (ซึ่งกลายเป็น requestor) จะส่งคำขอ proof ไปยัง Boundless Market อาจเป็นแบบ on-chain หรือ off-chain และฝากเงินไว้เพื่อเป็นค่าจ้างงาน

3. Provers ประมูล

ผู้พิสูจน์ (provers) แข่งขันกันในรูปแบบ reverse Dutch auction โดยผู้พิสูจน์คนแรกที่รับคำขอจะล็อกงานไว้ด้วยการวางหลักประกัน (collateral) ซึ่งจะถูกริบหากไม่สามารถส่งงานได้

4. ส่ง proof

ผู้พิสูจน์ที่ถูกเลือกจะสร้าง proof และสามารถรวมหลายคำขอเป็น aggregated proof ได้ เมื่อ proof ถูกตรวจสอบบน-chain เรียบร้อย ผู้พิสูจน์จะได้รับรางวัลและได้หลักประกันคืน

5. ใช้งาน proof

นักพัฒนาจะได้รับ proof ที่ถูกตรวจสอบแล้ว และนำไปผสานเข้ากับแอปพลิเคชันของตน เพื่อยืนยันว่าการทำงานถูกต้องจริง

Feature หลัก

Steel

ZK Coprocessor สำหรับ Ethereum 

Steel จะดึงสถานะ (state) จาก Blockchain ที่รองรับ EVM จากนั้นจึงรันโปรแกรมนอกเชนบน zkVM แล้วจึง สร้าง proof ที่สามารถตรวจสอบได้ กลับไปตรวจสอบบนเชน ทำให้ ขยายขนาดได้ดี, หลีกเลี่ยงข้อจำกัด block size, ประหยัด gas และยังคงความปลอดภัยผลลัพธ์สุดท้าย


OP Kailua

Toolkit สำหรับ Optimistic Rollup ใช้ ZKP Fault Proofs เสริมความปลอดภัย ลดเวลา finality และลด collateral

ด้วยการไม่ พึ่งพาเฉพาะ fraud proofs และนำเสนอ โมเดลการแก้ไขข้อพิพาทแบบใหม่ (alternative dispute resolution) เพื่อเพิ่มการป้องกันธุรกรรมที่ไม่ถูกต้อง

โทเค็น ZKC ใช้ทำอะไร?

Staking รับรางวัลและช่วยรักษาความปลอดภัยเครือข่าย, Governance โหวตอัปเกรดและกฎเกณฑ์ตลาด, Rewards รางวัลสำหรับ Prover ที่สร้าง proof สำเร็จ และ Collateral ใช้ค้ำประกันก่อนรับงาน หากล้มเหลวจะถูกเผาทิ้งบางส่วน

การกระจายตัวโทเค็น ZKC

  • Ecosystem Fund : 31%

  • Core Team & Early Contributors : 23.5%

  • Investors : 21.5%

  • Strategic Growth Fund : 18%

  • Other : 6%

อุปทานสูงสุด 1 พันล้าน ZKC, อุปทานหมุนเวียน 200.93 ล้าน ZKC



สรุป

Boundless ใช้ Zero-Knowledge Proofs เพื่อลดงานซ้ำของบล็อกเชน เปิดตลาดการประมวลผลที่ให้รางวัลกับงานที่มีประโยชน์จริง และออกแบบมาเพื่อให้นักพัฒนาสร้าง DApp ได้อย่างอิสระและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น