Mitosis (MITO) คืออะไร?

2025-09-15

ในหลายโปรโตคอล DeFi เมื่อผู้ใช้นำโทเค็นไปฝาก สินทรัพย์เหล่านั้นมักจะถูกล็อกและไม่สามารถนำไปใช้ที่อื่นได้ ส่งผลให้ ประสิทธิภาพของเงินทุน (capital efficiency) ลดลง 

Mitosis เข้ามาแก้ปัญหานี้โดยการแปลงเงินฝากให้เป็น Hub Assets ซึ่งเป็นโทเค็นตัวแทนที่สามารถเคลื่อนย้ายข้ามบล็อกเชนได้ แทนที่จะปล่อยให้นอนนิ่งเฉย Hub Assets สามารถถูกนำไปใช้ใน พูลที่ชุมชนบริหารจัดการ เพื่อสร้างผลตอบแทนที่มั่นคง หรือจะเลือกกลยุทธ์แบบกำหนดเองที่มุ่งหวังผลตอบแทนสูงกว่า

Mitosis ทำงานอย่างไร?

สถาปัตยกรรมแบบโมดูลาร์

Mitosis ถูกสร้างเป็นบล็อกเชน Layer 1 ที่ใช้การออกแบบเชิงโมดูลาร์ โดยแยก execution layer และ consensus layer ออกจากกัน

  • Execution layer:
    รองรับการทำงานร่วมกับ Ethereum Virtual Machine (EVM) ได้อย่างเต็มรูปแบบ นักพัฒนาจึงสามารถนำสัญญาอัจฉริยะและเครื่องมือจาก Ethereum มาใช้งานได้ทันที

  • Consensus layer:
    ใช้กลไก Proof of Stake (PoS) ขับเคลื่อนด้วย Comet Byzantine Fault Tolerant (CometBFT) ช่วยให้ได้ฉันทามติที่รวดเร็วและเชื่อถือได้ และ Cosmos SDK เป็นเฟรมเวิร์กสำหรับสร้างบล็อกเชนที่ปลอดภัยและปรับแต่งได้

จึงทำให้สามารถนำ การอัปเกรดจาก Ethereum มาใช้ได้ พร้อมรับประโยชน์จาก นวัตกรรมในระบบนิเวศ Cosmos ไปพร้อมกัน

Hub Assets

Mitosis เชื่อมต่อกับบล็อกเชนอย่าง Ethereum, Arbitrum และ BNB Chain ผ่านสถาปัตยกรรมแบบ hub-and-spoke

เมื่อผู้ใช้นำโทเค็นไปฝากใน Mitosis Vault บนหนึ่งในเชนที่รองรับ ระบบจะทำการ mint Hub Assets บน Mitosis โดยมีมูลค่า 1:1 กับโทเค็นที่ฝาก

Hub Assets ทำหน้าที่เป็นเวอร์ชันที่ยืดหยุ่นกว่าโทเค็นดั้งเดิม ผู้ใช้สามารถเคลื่อนย้ายเงินทุนไปยังส่วนต่าง ๆ ของระบบนิเวศ และเลือกกลยุทธ์ที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการ bridge หรือ wrap ที่ช้าและซับซ้อน

กระบวนการทำงานโดยทั่วไป

1. ฝากโทเค็น (Deposit funds):
เริ่มจากการนำโทเค็นไปฝากใน Mitosis Vault บนบล็อกเชนที่รองรับ

2. รับ Hub Assets:
ระบบ mint Hub Assets บน Mitosis Chain ในอัตรา 1:1 เพื่อแทนที่เงินฝากของผู้ใช้

3. เลือกกลยุทธ์ (Select strategy)
Ecosystem-Owned Liquidity (EOL) สำหรับผลตอบแทนแบบ passive บริหารจัดการโดยคณะกรรมการ หรือ Matrix ทีมเอาไปลงทุนใน Defi ที่ถูกคัดสรรมาโดยเฉพาะที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

4. รับโทเค็นกลยุทธ์
หากเลือก EOL จะได้รับ miAssets หากเลือก Matrix จะได้รับ maAssets โทเค็นเหล่านี้แทนสถานะการลงทุนของผู้ใช้ และเริ่มสร้างผลตอบแทนทันที

5. รับรางวัล (Collect rewards):
เมื่อกลยุทธ์สร้างผลกำไร รางวัลจะถูกรวบรวมเข้าสู่ Vault ระบบจะ mint Hub Assets เพิ่ม และกระจายกลับไปยังผู้ใช้ ผ่านกลไกที่โปร่งใสและตรวจสอบได้

ผลิตภัณฑ์ Product

Ecosystem Owned Liquidity (EOL)

EOL เปิดโอกาสให้ผู้ใช้นำสินทรัพย์มารวมกับผู้ใช้รายอื่น ๆ และให้ชุมชนเป็นผู้กำหนดว่าจะนำสภาพคล่องเหล่านี้ไปใช้อย่างไร

เมื่อผู้ใช้ฝากสินทรัพย์ใน EOL Vault จะได้รับ miAssets ซึ่งแทนสัดส่วนการถือครองในพูล โทเค็นเหล่านี้จะสร้างผลตอบแทนโดยอัตโนมัติจากกลยุทธ์ที่ทำงานบนหลายบล็อกเชน

ทำให้การเข้าร่วม EOL ช่วยให้ผู้ใช้รายย่อยได้ใช้ประโยชน์จาก ขนาดของพูลสภาพคล่องขนาดใหญ่ (ที่มักสงวนไว้สำหรับสถาบันการเงิน) และยังคงมีสิทธิ์ในการกำหนดทิศทางผ่าน governance และการโหวต

Matrix

Matrix เปิดทางให้เข้าถึงโอกาสการลงทุน DeFi ที่ถูก คัดสรรมาโดยเฉพาะ พร้อมเงื่อนไขและรางวัลที่โปร่งใส

เมื่อผู้ใช้ฝาก Hub Assets เข้าไปใน Matrix จะได้รับ maAssets ซึ่งเป็นโทเค็นที่สร้างผลตอบแทนได้ทันที กองทุนลง DeFi เหล่านี้ถูกจัดเป็น แคมเปญ ซึ่งออกแบบโดยโปรโตคอลต่าง ๆ เพื่อดึงดูดสภาพคล่อง

แต่ละแคมเปญจะมีรายละเอียดชัดเจน เช่น สินทรัพย์ที่รองรับ, วิธีแจกจ่ายรางวัล และ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง

ผู้ใช้สามารถเลือกกลยุทธ์ที่ตรงกับเป้าหมายของตัวเองได้ ทำให้มีทั้ง ความโปร่งใส และ การควบคุมเงินทุน ในขณะเดียวกัน โปรโตคอล DeFi ก็สามารถดึงสภาพคล่องได้ด้วยการเสนอเงื่อนไขที่แข่งขันได้

Liquidity Booster

Liquidity Booster เป็นโปรแกรมที่ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับ แรงจูงใจเพิ่มเติม นอกเหนือจากผลตอบแทนปกติ หากฝากผ่าน Binance Wallet App ผู้ใช้จะได้รับ MITO เพิ่มเติม และยังช่วยส่งสภาพคล่องไปยังแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (DApps) รุ่นใหม่

ฟีเจอร์นี้ทำให้เงินฝากของผู้ใช้สร้างผลตอบแทนไปพร้อม ๆ กับการสนับสนุนการเติบโตของระบบนิเวศ Mitosis โดยรวม


โทเค็นของ Mitosis

gMITO

gMITO คือโทเค็นสำหรับการกำกับดูแล (governance) ของ Mitosis สามารถรับได้จากการ stake MITO หรือจากการเป็น validator สามารถแปลงกลับเป็น MITO ได้ในอัตรา 1:1

ปริมาณ gMITO ที่ผู้ใช้ถือจะเป็นตัวกำหนด สิทธิ์ในการโหวต โดยผู้ถือ gMITO สามารถโหวตข้อเสนอเกี่ยวกับ การอัปเกรดโปรโตคอล และ การเปลี่ยนแปลงพารามิเตอร์ รวมถึงการดำเนินงานข้ามเชน สิ่งนี้ทำให้ชุมชนมีบทบาทโดยตรงในการกำหนดทิศทางของ Mitosis

tMITO

tMITO คือเวอร์ชันที่ถูกล็อกเวลา (time-locked) ของ MITO ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในช่วง Genesis Airdrop การทำงานคล้าย พันธบัตร (bond) ขณะถูกล็อกยังสามารถนำไปใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ได้ เช่น staking, การเทรดในพูลสภาพคล่อง, หรือการใช้เป็นหลักประกัน

เมื่อครบกำหนด 180 วัน แต่ละ tMITO จะถูกปลดล็อกเป็น 2.5 เท่า ของ MITO เดิมที่ได้รับการจัดสรรพร้อม รางวัลโบนัสเพิ่มเติม การออกแบบนี้กระตุ้นให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในระยะยาว แต่ยังคงความยืดหยุ่นในการนำโทเค็นไปใช้งานระหว่างช่วงล็อก

MITO

MITO คือโทเค็นยูทิลิตี้หลัก (native utility token) ของระบบนิเวศ Mitosis ใช้สำหรับ staking รับรางวัล (rewards) และ เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของเครือข่าย

เมื่อ stake MITO กับ validator ผู้ใช้ช่วยรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายและได้รับรางวัลตอบแทน MITO ยังทำหน้าที่เป็น รากฐานของระบบกำกับดูแล เพราะเมื่อ stake แล้วจะได้รับ gMITO ซึ่งจำเป็นต่อการโหวตในข้อเสนอสำคัญ

การกระจายตัวของโทเค็นของ (MITO)

  • Ecosystem: 45.50% 

  • Initial Liquidity: 4.00% 

  • Genesis Airdrop: 10.00% 

  • Team: 15.00% 

  • Foundation: 10.00% 

  • Exchange Marketing: 3.50% 

  • Investors: 8.76% 

  • R&D: 1.24% 

  • Builder Incentive: 2.00% 

อุปทานสูงสุด 1 พันล้าน MITO, อุปทานหมุนเวียน 181.27 ล้าน MITO

สรุป

Mitosis นำเสนอวิธีใหม่ในการเพิ่มสภาพคล่องของ DeFi ให้ยืดหยุ่นและเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเงินฝากจะถูกแปลงเป็น Hub Assets ที่สามารถเคลื่อนย้ายข้ามบล็อกเชนและนำไปใช้ใน Ecosystem-Owned Liquidity (EOL) เพื่อผลตอบแทนแบบ passive หรือใน Matrix สำหรับโอกาสลงทุนที่คัดสรรมาแล้วพร้อมเงื่อนไขและรางวัลที่โปร่งใส ทำให้ผู้ใช้สามารถเลือกกลยุทธ์ที่ตรงกับเป้าหมายและระดับความเสี่ยงของตัวเองได้อย่างอิสระ